ดูแลรักษา แบตเตอรี่ โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ด้วยวิธีที่ถูกต้อง

หน้าบทความดูแลรักษาแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าด้วยวิธีที่ถูกต้อง

ดูแลรักษาแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าด้วยวิธีที่ถูกต้อง

การดูแลรักษาแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเนื่องจากแบตเตอรี่เป็นส่วนสำคัญ

ในการทำงานของโฟล์คลิฟท์ซึ่งการดูแลรักษาแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าด้วยวิธีที่ถูกต้องจะช่วยสร้างการทำงาน

ของโฟล์คลิฟท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้นานขึ้น

แบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

เราแนะนำให้ชาร์จไฟแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าเมื่อความจุหรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าลดลงมาถึง 80% ของความจุไฟฟ้า 

(Depth of discharge) ซึ่งไม่ควรชาร์จไฟก่อนหรือหลังจากนี้

• แบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าใหม่ที่มีคุณภาพจะถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 1,500 รอบการชาร์จไฟขึ้นไป

ในสภาพการใช้งานที่เบาถึงปานกลางซึ่งการชาร์จแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ 80% 

เพื่อให้การใช้งานแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุดและทำให้อายุการใช้งานยาวนานที่สุด

ต้องชาร์จไฟด้วยวิธีการที่ถูกต้องเท่านั้น

• เลือกวันสุดสัปดาห์ 1 วันก่อนวันหยุด ทำการชาร์จไฟแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าแบบ “Equalize” 

หรือทุกการชาร์จไฟแบบปกติ 10-20 cycles ให้ชาร์จแบบ “Equalize” 1 ครั้งเพื่อคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ

ในการเก็บและคายประจุไฟของแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ระวังอย่าทำสิ่งที่ผิดพลาด

เพราะการชาร์จไฟแบบ “Equalize” ทุกวันจะทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าสั้นลง

การเติมน้ำกลั่นในแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าด้วยวิธีการที่ถูกต้อง

เติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์

 แบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าใหม่ (อายุการใช้งานไม่เกิน 2ปี) ควรเติมน้ำกลั่นทุก 10  รอบการชาร์จไฟ

ซึ่งแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าเก่าอาจต้องเติมน้ำกลั่นทุกๆ 5 รอบการชาร์จไฟ

• ทั้งแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าใหม่และเก่าแนะนำให้สุ่มตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ 2–3 เซลล์

ทุก 5 รอบการชาร์จไฟเพื่อให้แน่ใจว่าระดับน้ำยังคงสูงกว่าระดับต่ำสุดหรือสูงกว่า ELEMENT PROTECTOR

• เมื่อระดับน้ำในแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าลดต่ำลงต้องเติมน้ำกลั่นให้สูงกว่าแผ่น ELEMENT PROTECTOR 

ประมาณ 1-2 ซม.ในทุกๆ เซลล์และช่องว่างที่เหลือในแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีไว้เพื่อรองรับการขยายตัว

ของแก๊สเมื่อชาร์จไฟเต็ม ซึ่งการเติมน้ำกลั่นมากเกินไปแก๊สที่เกิดขึ้นในขณะชาร์จไฟจะดันให้น้ำล้นออกมา

การทำความสะอาดแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

ทำความสะอาดแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์

• ในกรณีที่น้ำล้นออกมาจากแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า เพื่อป้องกันการกัดกร่อนที่รุนแรงต่อถังแบตเตอรี่

และตัวรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าให้ใช้น้ำฉีดล้างเพื่อลดความเข้มข้นของกรดรวมถึงลดความสามารถในการกัดกร่อน 

ซึ่งน้ำที่เกิดขึ้นจากการล้างแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจะส่งผลน้อยหรือไม่ส่งผลใดๆ ต่อสิ่งแวดล้อม

• กรดเจือจางที่ล้นออกมาจากแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้าและกัดกร่อนที่ดี

ถ้าไม่ล้างออกคุณสมบัติการนำไฟฟ้าจะทำให้แบตเตอรี่คายประจุไฟจนหมดแม้ในขณะที่ไม่มีการใช้งานก็ตาม

อีกทั้งยังทำให้อุณหภูมิในแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าสูงขึ้นทั้งในขณะชาร์จไฟและใช้งาน

• กรดที่ล้นออกมาหลายๆครั้ง จะรวมตัวกันเกิดเป็นขี้เกลือหรือผลึกซัลเฟตซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อายุการใช้งาน

ของแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าสั้นลงฉะนั้นการเติมน้ำกลั่นต้องฝึกให้พนักงานมีทักษะที่ดี

เพื่อป้องกันไม่ให้กรดล้นออกมา

• ไอระเหยของกรดระหว่างการชาร์จไฟจะลอยอยู่รอบ ๆ ฝาปิดเซลล์แบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

หลังจากที่ใช้งานไประยะหนึ่งขี้เกลือหรือซัลเฟตจะรวมตัวกันบริเวณฝาแบตเตอรี่ 

แนะนำให้ทำความสะอาดเพื่อป้องกันการกัดกร่อนที่อาจเกิดขึ้น

สิ่งที่ควรระวัง

สิ่งที่ควรระวังสำหรับแบตเตอรี่

• อย่าเติมน้ำกลั่นมากเกินไปเพราะเป็นสาเหตุให้น้ำล้นในระหว่างชาร์จไฟซึ่งความเข้มข้นของกรดจะเจือจาง

ลงไปเรื่อยๆ และความร้อนในแบตเตอรี่จะสูงขึ้นอันเป็นเหตุให้เกิดค่าใช้จ่ายในการปรับสภาพแบตเตอรี่ต่อไป

• อย่าสร้างนิสัยในการชาร์จไฟด้วยเวลาสั้นๆ ในช่วงพักเที่ยงหรือพักเบร เพราะการชาร์จไฟด้วยเวลาสั้นๆ

นั้นหมายความถึง “1 Cycle” การชาร์จไฟเกินเวลาส่งผลให้อายุของแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าสั้นลง 

ช่วงพักเที่ยงหรือพักเบรคควรจะเป็นเวลาพักเพื่อให้แบตเตอรี่ลดอุณหภูมิความร้อนลง

หลังจากที่ใช้งานอย่างหนักมาหลายชั่วโมง

• อย่าให้แบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าคายประจุด้วยตัวเองเกิน 2-3 วัน เพราะขี้เกลือหรือซัลเฟตบนแบตเตอรี่

จะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลงและควรทำความสะอาดแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอทุกๆ เดือน

• อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าคายประจุมากกว่า 80% เป็นเวลานาน 

อาจต้องใช้เวลามากกว่า 72 ชั่วโมงในการชาร์จเพื่อให้แบตเตอรี่กลับมามีไฟอีกครั้ง

• อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าร้อนอย่างต่อเนื่อง สังเกตุจากการได้กลิ่นไอน้ำกรดขณะใช้งาน

เพราะนั่นหมายความว่าแบตเตอรี่ ตู้ชาร์จหรือรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าของเรากำลังมีปัญหานั่นเอง

• ห้ามก่อเกิดประกายไฟหรือเปลวไฟในขณะชาร์จแบตเตอรี่เพราะแก๊สไฮโดรเจนจะเป็นต้นเหตุของการระเบิดได้

ห้ามมิให้แบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าคายประจุมากเกินไป 

(Over Discharge)

การคายประจุไฟของแบตเตอรี่

• การคายประจุมากเกินไปต้องใช้เวลาในการชาร์จไฟยาวนานขึ้นซึ่งอาจกินเวลาการทำงานในวันถัดไป

• การคายประจุมากเกินไปเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าสั้นลง 

เป็นสัญญาณเตือนว่าแบตเตอรี่กำลังทำงานหนัก อาจดูได้จากมอเตอร์ร้อนหรือมีเสียงหรือทำงานผิดปกติ

มอเตอร์ไหม้ , แปรงถ่านหมด , หน้า contact ไหม้ละลาย

• เครื่องชาร์จไฟอัตโนมัติจะไม่ทำงานในกรณีที่แบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีการคายประจุมากเกินไป

อาจต้องเสียเวลาในการหาเครื่องชาร์จแบบธรรมดามาชาร์จไฟในช่วงเริ่มต้น

บทความล่าสุด

ติดต่อเราวันนี้