Forklift คืออะไร?

Forklift คืออะไร

Forklift คืออะไร ?

Forklift เป็นรถสำหรับอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่มีแท่นยกแบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าติดอยู่ที่ด้านหน้า

ซึ่งสามารถยกสินค้าขึ้นลงหรือเคลื่อนย้ายได้ รถโฟล์คลิฟท์ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมต่างๆ 

รวมทั้งคลังสินค้าและห้องเก็บของขนาดใหญ่อื่นๆ 

โดยรถ Forklift ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์สันดาปภายใน เช่น ดีเซล LPG

รถโฟล์คลิฟท์บางรุ่นมีที่นั่งให้ผู้ควบคุมนั่งขณะขับรถโฟล์คลิฟท์ แต่บางรุ่นผู้ควบคุมต้องยืนขับรถโฟล์คลิฟท์

ซึ่งมีการใช้รถโฟล์คลิฟท์กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการขนส่งวัสดุและสินค้า 

โดยมีส่วนประกอบสำคัญของรถโฟล์คลิฟท์ กลไกรถโฟล์คลิฟท์และการใช้งานอย่างละเอียดที่คุณต้องรู้

ส่วนประกอบสำคัญของ Forklift ที่คุณต้องรู้

Forklift ประกอบด้วยส่วนประกอบต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ 

ตั้งแต่โครงรถโฟล์คลิฟท์ แหล่งพลังงานไปจนถึงน้ำหนักถ่วงซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรถโฟล์คลิฟท์

เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

1. โครงรถโฟล์คลิฟท์

โครงรถโฟล์คลิฟท์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นฐานของเครื่องจักร

โดยส่วนประกอบหลักทั้งหมดของ Forklift จะมีล้อ น้ำหนักถ่วง และเสาซึ่งติดอยู่กับโครงรถโฟล์คลิฟท์

What Is Forklift1

2.ถ่วงน้ำหนัก

Counterweight คือน้ำหนักเหล็กหล่อที่ติดอยู่กับส่วนหลังของรถโฟล์คลิฟท์ 

จุดมุ่งหมายของการถ่วงน้ำหนักคือการถ่วงน้ำหนักที่ยกขึ้น

สำหรับ Forklift ไฟฟ้าเครื่องถ่วงน้ำหนักจะรวมถึงแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดหรือแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน

ถ่วงน้ำหนักรถโฟล์คลิฟท์

3.แหล่งพลังงาน

แหล่งพลังงานของรถโฟล์คลิฟท์ประกอบด้วยแบตเตอรี่ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาปภายใน

โดยเครื่องยนต์สันดาปภายในสามารถใช้เชื้อเพลิง LPG, CNG, ดีเซลและก๊าซธรรมชาติ 

ส่วนรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าได้รับพลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิงหรือแบตเตอรี่กรดตะกั่ว

พลังงานรถโฟล์คลิฟท์

4.แผงงา

ทำหน้าที่เป็นตัวจับงาซึ่งติดกับโครงรถโฟล์คลิฟท์ตั้งอยู่บนรางเสาเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายขึ้นลงได้ง่าย

แผงงารถโฟล์คลิฟท์

5.เสา

เสาคือส่วนที่เป็นแนวตั้งซึ่งใช้สำหรับยกขึ้นและลง โดยมีส่วนประกอบคือ Interlocking Rails 

ที่ให้การควบคุมในแนวนอน เช่นเดียวกับแผงงา ซึ่งเสาอาจติดตั้งลูกกลิ้งด้วย

เสารถโฟล์คลิฟท์

Forklift มีกลไกการทำงานอย่างไร ?

กลไกการทำงานของรถโฟล์คลิฟท์ มีดังนี้
  • กระบอกไฮดรอลิก
  • รอกโซ่แบบลูกกลิ้งหนึ่งคู่
  • การควบคุม
กลไกรถโฟล์คลิฟท์

กลไกการยก : กระบอกไฮดรอลิก

ที่จับลิฟต์ติดอยู่กับปั๊มลมไฟฟ้าซึ่งอยู่ที่ฐานของ Forklift เมื่อกดที่จับแล้วจะกระตุ้นปั๊มลม

โดยดึงอากาศภายนอกผ่านตัวกรองและบังคับเข้าไปในท่อกระบอกไฮดรอลิก 

ซึ่งกระบอกไฮดรอลิกจะประกอบด้วยท่อกลวงปิดที่ปลายด้านหนึ่งพร้อมข้อต่อลูกสูบแบบหล่อลื่นที่ยืดหยุ่นได้

เข้ากับอีกด้านหนึ่ง อากาศจะเข้าไปติดอยู่ที่ฐานของกระบอกสูบซึ่งทำให้ก๊าซเข้าไปได้จึงไม่รั่วไหลออกมา

โดยปริมาตรของก๊าซในกระบอกสูบจะเพิ่มแรงดันภายใน

แรงดันที่ใช้กับบริเวณหัวลูกสูบทำให้เกิดแรงขึ้น ซึ่งแรงนี้ทำให้ลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้น เพิ่มปริมาตรของแก๊ส

และลดแรงดันลง ช่วยสร้างสมดุลทางกายภาพที่ความสูงของรถโฟล์คลิฟท์และแรงที่เท่ากันจากแก๊ส

รวมถึงโหลดของรถโฟล์คลิฟท์ด้วย 

  • เพื่อยกระดับโหลด โดยที่ผู้ปฏิบัติงานหรือผู้ควบคุมรถโฟล์คลิฟท์ดันที่จับไปในทิศทางไปข้างหน้า 

         เพื่อเป็นตัวส่งสัญญาณให้รถยกสูบลมส่วนเกินไปยังกระบอกสูบ

  • เพื่อลดภาระ โดยที่ผู้ปฏิบัติงานดึงที่จับในทิศทางถอยหลัง

         ซึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณไปยังวาล์วพิเศษเพื่อปล่อยก๊าซออกจากกระบอกสูบ

กลไกการยก : รอกโซ่แบบลูกกลิ้ง

ลูกสูบไฮดรอลิกติดอยู่กับโครงสร้างแนวตั้งหลักเรียกว่า “เสากระโดง” 

โดยที่กระบอกไฮดรอลิคสำหรับบรรทุกสิ่งของจะติดเข้ากับโครงสร้างหลักของ Forklift ด้วยรอกโซ่แบบลูกกลิ้ง

ซึ่งมีจุดศูนย์กลางเป็นเฟืองที่ด้านบนของเสากระโดง ดังนั้นเมื่อลูกสูบไฮดรอลิกดันเสากระโดงขึ้นด้านบน 

เฟืองบนเสากระโดงจะถูกกดทับกับโซ่แบบลูกกลิ้ง เพราะด้านหนึ่งของโซ่ติดอยู่กับโครงแบบเคลื่อนย้าย

และวิธีเดียวที่เสากระโดงสามารถเคลื่อนขึ้นด้านบนได้คือเกียร์หมุนตามเข็มนาฬิกาและดึงงาขึ้นเหนือศีรษะ

ความสำคัญของกลไกนี้คือการปล่อยให้งาอยู่ไกลจากระยะเอื้อมของกระบอกสูบ 

โดยที่รอกโซ่แบบลูกกลิ้งของรถ Forklift ก็ต้องการกระบอกสูบที่สูงกว่ามากเพื่อยกของขึ้นให้สูงเท่ากัน

รอกโซ่รถโฟล์คลิฟท์

การควบคุม

Forklift มีชุดควบคุม 2 ชุด

ชุดที่ 1 สำหรับบังคับเลี้ยวและชุดที่ 2 สำหรับการยกระบบควบคุมพวงมาลัย

การควบคุมพวงมาลัยทำงานคล้ายกับรถกอล์ฟที่มีคันเร่ง พวงมาลัย เบรก เกียร์ถอยหลังและเกียร์เดินหน้า

โดยรถ Forklift ใช้พวงมาลัยบังคับล้อหลัง เมื่อคุณบังคับพวงมาลัย ล้อที่เพลาล้อหลังจะเริ่มหมุนกลับไปกลับมา

ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถหมุนและมีความแม่นยำมากขึ้นในขณะขนถ่ายสินค้า

ควบคุมรถโฟล์คลิฟท์

การควบคุมการยก

ระบบควบคุมการยกประกอบด้วยคันโยก 2 คันโยก :

1.สำหรับการยกตะเสาขึ้นและลง

2. สำหรับการเอียงโหลดไปมา

โดยที่ Lifting Control ทำงานเหมือนกับกลไกการยกที่กล่าวข้างต้น ซึ่งกลไกการเอียงค่อนข้างแตกต่าง

โดยที่มีกระบอกไฮดรอลิกเพิ่มเติมสองคู่ติดอยู่ที่ฐานของเสากระโดง

 

  • เมื่อ Tilt Handle เคลื่อนไปข้างหน้า อากาศจะเติมในห้องเพาะเลี้ยงโดยอัตโนมัติ

         มีแรงดันที่เพิ่มขึ้นเพียงพอที่จะดันหัวลูกสูบและปล่อยให้เสากระโดงออกจากตัวรถโฟล์คลิฟท์

  • เมื่อ Tilt Handle เลื่อนกลับ อากาศจะค่อยๆ ไหลออกจากกระบอกสูบและสูบฉีด

         ไปยังส่วนอื่นๆ ของกระบอกสูบที่ยึดกับเสาและเมื่อลูกสูบถูกผลักไปข้างหน้า เสากระโดงจะถูกผลักกลับไปที่รถ

การใช้ Forklift ในอุตสาหกรรม

Forklift ได้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการจัดเก็บและการขนส่งโดยสิ้นเชิง

Forklift ถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และตอนนี้กลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมสมัยใหม่

ซึ่งรถ Forklift ได้รับการตั้งชื่อตามงาสำหรับยกของขึ้นซึ่งมีหน้าตาคล้ายส้อม

1. ไซต์ก่อสร้าง

รถ Forklift สำหรับอุตสาหกรรมการก่อสร้างซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มากในสถานที่หรือไซต์ก่อสร้าง 

เนื่องจากสามารถใช้บรรทุกวัสดุก่อสร้างที่แข็งแรงในระยะทางไกลและใช้งานบนพื้นที่ขรุขระได้

รถโฟล์คลิฟท์ในไซต์ก่อสร้าง

2. โกดังสินค้า

รถ Forklift มักพบเจอในคลังสินค้าโดยส่วนใหญ่จะใช้รถ Forklift สำหรับการขนถ่ายจากรถบรรทุกสินค้า 

โดยมีรถฟอร์คลิฟท์ให้เลือกมากมาย หลายขนาด ตั้งแต่ความจุเริ่มต้นที่ 1 ตัน

สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าทั่วไป จนถึงความจุ 50 ตัน สำหรับงานขนส่งตู้คอนเทนเนอร์

รถโฟล์คลิฟท์ในคลังสินค้า

3. การรีไซเคิล

ใช้ Forklift เพื่อขนถ่ายรถสินค้าสำหรับรีไซเคิลหรือตู้คอนเทนเนอร์และขนส่งสิ่งของไปยังช่องคัดแยก

รถโฟล์คลิฟท์ยกของรีไซเคิล

4. ท่าเรือ

รถ Forklift ถูกนำมาใช้ในการยกขนถ่ายเรือบรรทุกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 

ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับวิธีการโหลดอาวุธ วัสดุสิ้นเปลืองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพภายในสมัยนั้น

ปัจจุบันมีการใช้รถโฟล์คลิฟท์สำหรับงานหนักในการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่จากรถบรรทุก

ส่งไปยังพื้นที่จัดเก็บบริเวณท่าเรือ แล้วหลังจากนั้นจึงขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ไปยังเรือบรรทุกสินค้า

รถโฟล์คลิฟท์สำหรับท่าเรือ

บทความล่าสุด

ติดต่อเราวันนี้